จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | 29 ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | ประวัติศาสตร์ |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ไฮไลท์ |
'กษัตริย์จากต่างแดน: อำนาจ ปรัมปรา และอาณานิคม' บรรณาธิการโดยปรีดี หงษ์สต้น
หนังสือขนาด A5 (14.3 x 21 cm) ; ปกอ่อน สัน 20 mm ; ปกแข็ง สัน 27 mm
เข้าเล่มปกอ่อนจำนวน 344 หน้า
จุดตั้งต้นของการพัฒนามโนทัศน์เรื่องกษัตริย์แปลกหน้าอยู่ตรงความพยายามเข้าใจอาณานิคมในโลกสมัยใหม่ เพื่ออธิบายว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าอาณานิคมยุโรปและชาวพื้นเมืองนั้น ไม่ใช่การมุ่งกดปราบอำนาจและทำลายระบบทั้งหมดของพื้นเมืองต่างๆ ลงแต่เป็นโครงสร้างการรับมือของผู้ปกครองพื้นเมืองเอง ซึ่งมีประสบการณ์กับกษัตริย์แปลกหน้าอื่นๆ มาโดยตลอด ก่อนหน้าชาวยุโรปมาถึง
มโนทัศน์ว่าด้วยกษัตริย์แปลกหน้า จึงเป็นความพยายามท้าทายความเข้าใจความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างตนเองและผู้อื่น ข้างนอกหรือข้างในอันเป็นผลผลิตของสภาวะสมัยใหม่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรอบหลังอาณานิคมที่ทำให้การเข้าใจผลผลิตของโลกสมัยใหม่ แทบจะกลายเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าอาณานิคมยุโรปและดินแดนอาณานิคมเพียงประการเดียว คือมีเจ้าอาณานิคมและอาณานิคม แต่ความจริงมีความซับซ้อน คลุมเครือกว่านั้น
อนึ่ง การรวบรวมงานของนักวิชาการจากหลายสาขาวิชาย่อมทำให้การจะหาจุดร่วมไม่ง่ายนัก แต่ทั้งหมดเห็นร่วมกันในการมองปรากฏการณ์ผ่านแนวคิดกษัตริย์จากต่างแดน ในการเข้าใจความสัมพันธ์ของอำนาจ ปรัมปรา และอำนาจอาณานิคมร่วมกัน
หนังสือเล่มนี้มีอยู่ 4 บท
บทที่ 1 “ว่าด้วยกษัตริย์จากต่างแดน หรือรูปแบบมูลฐานของการเมืองชีวิต” โดย มาร์แชล ซาห์ลินส์ แปลโดยวรรณพรรธน์ เฟรนซ์ อธิบายความคิดของกษัตริย์จากต่างแดน เป็นจุดตั้งต้นของการอภิปรายความคิดของกษัตริย์จากต่างแดน เป็นจุดตั้งต้นของการอภิปรายว่าด้วยแนวคิดนี้ ผู้อ่านที่ต้องทำความรู้จักกับแนวคิดนี้ พึงจะอ่านบทความนี้ก่อนเป็นพื้น
บทที่ 2 “ปรากฏการณ์คนต่างถิ่นในเอเชียยุคก่อนสมัยใหม่” โดย เฟลิเป เฟอร์นันเดซ อาร์เมสโต แปลโดยวรรณพรรธน์ เฟรนซ์ ถอยขึ้นไปสู่ยุคก่อนสมัยใหม่ และนำความคิดเรื่อง คนต่างถิ่น หรือคนแปลกหน้าเข้าไปอธิบาย บทความนี้พึงได้รับการพิจารณาควบคู่ไปกับบทความของซาห์ลินส์และมีความสำคัญเทียบเคียงกัน
บทที่ 3 “คนต่างถิ่นที่คุ้นเคยและกษัตริย์จากต่างแดน: การเคลื่อนที่ ผู้พลัดถิ่น และคนต่างถิ่นในโลกมาลายูคริสต์ศตวรรษที่ 18” โดย โคห์ เคง เวห์ แปลโดยฮ่ารา ชินทาโร่ เจาะจงไปที่ช่วงเวลาหนึ่งๆ ของประวัติศาสตร์โลกมลายู เป็นบทความอันพยายามจัดความหมายและความหลากหลายของมโนทัศน์นี้ผ่านกรณีตัวอย่าง
บทที่ 4 อันเป็นบทสุดท้าย “ความขัดแย้ง ความยุติธรรม และรากเหง้าแห่งกษัตริย์แปลกหน้าของการปกครองอาณานิคมในอินโดนีเซียและที่อื่นๆ โดย เดวิด เฮนลีย์ แปลโดยปริญญา นวลเปียน แม้จะเหมือนเป็นการเฉพาะเจาะจงลงไปที่กรณีเฉพาะก็ตามแต่มีนัยของการชี้ชวนให้มองบริบทของยุคอาณานิคมในกรอบใหม่ๆ โดยเฉพาะการทำให้เห็นว่า กษัตริย์แปลกหน้า (เช่น เจ้าอาณานิคมดัตช์) ไม่ใช่เพียงแต่จะไม่ถูกต่อต้านและเป็นที่ต้องการของผู้นำท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง ในการเข้าช่วยไกล่เกลี่ยและจัดการกับความขัดแย้งภายใน
โดยนัยแล้ว มโนทัศน์เรื่องกษัตริย์แปลกหน้า จึงทำให้เราต้องมองยุคอาณานิคมอีกครั้งว่า มิใช่กระบวนการที่เป็นผลของคู่ตรงข้าม เจ้าอาณานิคม/ดินแดนอาณานิคม (colonisers/colonised) และฝ่ายแรกกระทำต่อฝ่ายหลัง ดังการให้เหตุผลแบบชาตินิยม หากแต่เป็นกระบวนการอันซับซ้อนที่ครอบคลุมไปทั้งหมดในความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างตะวันตก (West) และนอกตะวันตก (non-West) ในประวัติศาสตร์โลก ไม่ว่าดินแดนนั้นๆ จะเป็นอาณานิคมทางตรงหรือไม่ก็ตาม
คำนำ
ปรีดี หงษ์สต้น
|
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
บทความที่รวบรวมแปลอยู่ในหนังสือเล่มนี้ เป็นผลพวงจากการตั้งต้นของนักวิชาการโลกมาเลย์ศึกษากลุ่มหนึ่ง ซึ่งประกอบไปด้วยนักประวัติศาสตร์และนักมานุษยวิทยา ร่วมกันจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการขึ้น ณ สถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแคริบเบียนศึกษาแห่งราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (KITLV) สาขาจาการ์ตา ระหว่างวันที่ 5-7 มิถุนายน ปี 2006 ในหัวข้อ กษัตริย์ต่างแดนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และที่อื่นๆ (Stranger-Kings in Southeast Asia and elsewhere) บุลคลคนหนึ่งที่เป็นหลักของการจัดงานคือเดวิด เฮนลีย์ (David Henley) ซึ่งเขาร่วมกับเอียน คอลเวล (Ian Caldwell) ในการรวบรวมบทความจากการสัมมานาเชิงปฏิบัติการครั้งนั้นเป็นฉบับพิเศษของวารสาร ความไม่ลงรอยกันในระดับต่อมา ซึ่งเป็นความเห็นต่างอันรุกเร้าและท้าทายอย่างยิ่ง คือ การพยายามหาคำตอบจากคำถามว่า สังคมก่อนอาณานิคมนั้น โดยเนื้อแท้แล้วเป็นสังคมที่รุนแรง หรือเป็นสังคมอันสันติสุขกันแน่ ผู้ที่มองเป็นแนวทางแรกยึดถือตามแนวทางโธมัส ฮอบส์ (Thomas Hobbs) ส่วนผู้ที่มองในแนวทางหลังยึดถือตามฌอง ฌาค รุสโซ (Jean- Jacques Rousseau) สังคมก่อนอาณานิคม หรือสังคมชนเผ่าไร้รัฐที่ว่านี้ จัดการความขัดแย้งภายในสังคมอย่างไรก่อนการเข้ามาของโลกตะวันตก และการแทรกแซงเข้ามาของมหาอำนาจตะวันตกนี้ได้เป็นเหตุของความรุนแรงอันต่อเนื่องยาวนานหลังอาณานิคมต่อมา ทว่าในทางกลับกัน ได้ทำให้ความรุนแรงขัดแย้งนั้นลดลงได้ด้วยการมีอำนาจจากภายนอกที่ไม่ได้อยู่เกาะเกี่ยวข้างใดข้างหนึ่งเข้ามาทำให้ความขัดแย้งคลี่คลายไปในระยะหนึ่งๆ เฮนลีย์และคอลเวล ทำการสำรวจจุดยืนของผู้เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนั้น และตั้งข้อสังเกตว่า 'บรรณาธิการทั้งสอง [เฮนลีย์และคอลเวล] จึงเป็นนักประวัติศาสตร์ มุ่งยึดถือตามตัวแบบของฮอบส์… หากแต่ผู้เข้าร่วมคนอื่น (ส่วนใหญ่แม้ไม่ทั้งหมด) ซึ่งเป็นนักมานุษยวิทยา ต่างยึดแนวทางรุสโซ' ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |